ผมไปอ่านพบบทความของ ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ ในผู้จัดการออนไลน์ ชื่อ “7 เทคนิคช่วยลดความเครียดและนอนหลับสบาย” ซึ่ง ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ ไปแปลมาจากบทความเรื่อง “Tips to Reduce Stress and Sleep Better” ของ WebMD
เนื้อหาเว็บที่เป็นภาษาอังกฤษก็ตามภาพด้านบน ถ้าอยากอ่านโดยละเอียดก็ตามลิงก์ไป
ผมทำลิงก์ให้แล้ว
เนื้อหาบทความที่
ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ แปลมาแล้วก็เป็น ดังนี้
1. ค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด
วิธีแรกในการจัดการกับความเครียดคือการค้นหาสาเหตุของปัญหา
ตรวจสอบสภาพทางด้านร่างกาย และกิจวัตรประจำวันที่ทำ
ว่าเป็นความเครียดที่เกิดจากความเจ็บป่วยหรือไม่ หรือมีงานมากเกินไปหรือไม่
เมื่อเราค้นพบสาเหตุของความเครียดแล้ว เราก็จะสามารถค่อยๆหาวิธีลดความเครียดนั้นๆ
ลงได้
2. เข้าร่วมสังคม ใช้เวลากับครอบครัว
เพื่อน การกับกิจกรรมร่วมกับสังคมจะช่วยลดปัญหาความเครียดได้
และการเล่าปัญหาความเครียดให้คนที่เรารักฟังจะช่วยบรรเทาสิ่งที่เรากังวลได้
3. จัดระเบียบความคิด
อะไรคือสิ่งที่เราคิด และเราคิดอย่างไรกับปัญหานั้น เรามีความคาดหวังอะไร
สิ่งที่เราบอกตัวเราเองจะช่วยให้เราตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก
ที่จะเพิ่มระดับความเครียดหรือลดความเครียดลง เราสามารถจัดระเบียบความคิดได้
การเฝ้าระวังถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
และการจัดการกับสถานการณ์นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ฉันทำงานนี้พัง
เพราะฉันส่งงานไม่ทันการ
4. ออกกำลัง
การออกกำลังกายช่วยทำให้ความเครียดหายไปหรือลดลงได้
การใช้เทคนิคผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเกร็งกล้ามเนื้อต่อผลต่อความเครียดได้
การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือ
2ชั่วโมงก่อนนอน เพื่ออุณหภูมิของร่างกายจะเข้าสู่สภาพปกติ
แต่ในกรณีที่เป็นผู้สูงอายุ อายุ 50 ปี ขึ้นไป ที่ทานยาประจำตัว
ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ไม่ควรทานอาหารขยะที่มีน้ำตาลมาก หรือมีคุณค่าทางอาหารต่ำ
เพราะจะส่งผลต่อพละกำลังและสภาพจิตใจ
ดังนั้น ควรระวังเรื่องอาหาร
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีน้ำตาลต่ำ ระวังเรื่องคาเฟอีน
และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นกัน
6. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ลดความเครียดที่เกิดขึ้นในระหว่างวันได้
หากเราเหนื่อยร่างกายไม่สามารถทนต่อปัญหาหรือสิ่งที่มารบกวนเล็กๆ น้อยๆ ได้
ปกติผู้ใหญ่ต้องการการนอน อย่างน้อย 7 -
9 ชั่วโมง ฝึกการนอนให้เป็นเวลา ฝึกการกำหนดลมหายใจ และเทคนิคการผ่อนคลายจะช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
7. หาคนช่วยงาน
การมีภาระรับผิดชอบมากเกินไป ทำให้เกิดความเครียด หาผู้ช่วยเพื่อลดความเครียด
และลดความรับผิดชอบลง
ขั้นตอนต่างๆ
เหล่านี้จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นแต่หากมีปัญหาหมกมุ่นมากและไม่สามารถนอนหลับได้
ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไป
อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้
เพราะว่าพรุ่งนี้ก็จะมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว (มัทธิว 6:34)
เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ
มีข้อสังเกตและวิพากษ์วิจารณ์
ดังนี้
1-
ฝรั่งจะเป็นชนชาติที่มีความเครียดมาก และความเครียดนั้น ก็ไปสร้างโรคขึ้นมา ดังนั้น บทความลดความเครียดต่างๆ
จึงมาจากฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ และ เป็นข้อแนะนำที่ไม่สามารถลดความเครียดได้
2-
ก่อนอื่นขอให้เปรียบเทียบประโยคภาษาอังกฤษกับภาษาไทยคู่นี้ก่อน
Practicing good sleep hygiene along with stress-lowering tactics can help improve your quality
of sleep.
ฝึกการนอนให้เป็นเวลา
ฝึกการกำหนดลมหายใจ
และเทคนิคการผ่อนคลายจะช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
ผมไม่รู้ว่า
“stress-lowering tactics” มันตรงกับ “ฝึกการกำหนดลมหายใจ” แค่ไหนอย่างไร แต่แสดงให้เห็นว่า ฝรั่งไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องการฝึกสมาธิ
3-
ขอให้ดูประโยคสุดท้ายที่ว่า
อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้
เพราะว่าพรุ่งนี้ก็จะมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว (มัทธิว 6:34)
สันนิษฐานว่า
ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ คงนับถือศาสนาคริสต์ เพราะ
ข้อความที่เน้นระบายสีเหลืองไว้นั้น ไม่มีในต้นฉบับภาษาอังกฤษ
โดยสรุป
องค์ความรู้ของฝรั่ง
ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ในทางวิชาการ หรือในทางศาสนาคริสต์ ไม่มีคำสอนเรื่องฝึกสมาธิหรือการปฏิบัติธรรม
ดังนั้น
บทความหรือคำแนะนำการลดความเครียดต่างๆ ที่เขียนมาเป็นหนังสือไม่รู้กี่ร้อยเล่ม
เป็นบทความไม่รู้กี่พันบทความจึงใช้ไม่ได้เลย
กล่าวคือ
อ่านไปแล้ว ทำตามไปแล้ว ก็ไม่สามารถลดความเครียดได้
ในทางวิชาธรรมกายนั้น ง่ายมาก
ไม่ว่า คุณจะมีปัญหาในชีวิตประจำวันมามากมายขนาดไหน ก่อนนอนให้ทำตามวิดิโอด้านบน 1 ครั้ง เมื่อตื่นนอนก็ทำอีก 1 ครั้ง แล้วค่อยไปทำภารกิจอื่นๆ
รับรองความเครียดหายไปแน่
ตรงนี้ขอขยายความนิดหน่อย
สำหรับบางคนที่จะโต้แย้งว่า “ไม่มีเวลา”
เมื่อเราล้มนอนลงนอนไปแล้ว คนที่โชคดีคือ เอนหลังแล้วหลับเลยนั้น
ก็แสดงว่า ไม่มีความเครียดอยู่แล้ว
ท่านก็โชคดีไป
แต่คนที่มีความเครียดอยู่
และเป็นคนส่วนใหญ่ในสังคม มันไม่สามารถหลับไปได้เลยทันที ส่วนใหญ่แล้ว นอนกระสับกระส่าย คิดโน่น คิดนี่
ไปอีกนานกว่าจะหลับได้
บุคคลเหล่านี้นี่แหละที่ควรจะคิดว่า
เราจะคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยหาความสงบไม่ได้ หรือจะเอาใจมาจินตนาการให้เห็นดวงใสในท้องดีกว่า
วันแรกๆ
อาจจะทำได้นิดหน่อย แต่เมื่อคิดได้เรื่อยๆ ก็จะทำได้มากขึ้น เมื่อทำได้มากขึ้น
ความเครียดก็จะหายไป
สิ่งที่เพิ่มเติมมาโดยไม่รู้ตัวก็คือ
ดวงบุญบารมีมันจะใหญ่ขึ้น ทุกข์จากกรรมชั่วที่เคยทำมาในอดีตก็จะหายไปเรื่อยๆ